ถ้าไม่เติมลมยางรถยนต์นานจะมีผลกับการขับขี่บ้างไหม
ลมยางเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย แต่หากละเลยการเติมลมยางรถยนต์เป็นเวลานาน ย่อมส่งผลกระทบต่อการขับขี่และสภาพรถยนต์ได้

ผลกระทบของการไม่เติมลมยางรถยนต์นาน
1. ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลง
- แรงเสียดทานเพิ่มขึ้น
เมื่อยางมีลมไม่เพียงพอ หน้ายางจะสัมผัสกับพื้นถนนมากกว่าปกติ ทำให้แรงเสียดทานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การขับขี่ไม่ราบรื่น
- พวงมาลัยหนัก
ลมยางที่ต่ำเกินไปจะทำให้พวงมาลัยควบคุมยากขึ้น โดยเฉพาะในขณะที่เลี้ยวหรือขับในความเร็วต่ำ
2. ความเสี่ยงต่อความปลอดภัย
- เสี่ยงต่อการยางระเบิด
ลมยางที่ต่ำกว่ามาตรฐานจะทำให้ยางเกิดความร้อนสูงขณะขับขี่ ซึ่งอาจนำไปสู่การระเบิดของยางได้ โดยเฉพาะในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- เพิ่มระยะเบรก
เมื่อแรงดันลมยางต่ำ หน้ายางที่สัมผัสกับถนนมากขึ้นจะทำให้ระยะเบรกยาวขึ้น ส่งผลต่อการหยุดรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน
3. การสึกหรอของยางเร็วขึ้น
- สึกหรอไม่สม่ำเสมอ
ลมยางที่ต่ำจะทำให้ส่วนขอบยางสึกหรอมากกว่าส่วนกลาง ทำให้อายุการใช้งานของยางลดลง
- เพิ่มค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยาง
เมื่อยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ จะต้องเปลี่ยนยางบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
วิธีดูแลลมยางเพื่อป้องกันปัญหา
1. ตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอ
- ความถี่ในการตรวจสอบ
ควรตรวจสอบลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือทุกครั้งก่อนเดินทางไกล
- ใช้อุปกรณ์วัดลมยาง
ควรใช้อุปกรณ์วัดลมยางที่แม่นยำ เพื่อให้แน่ใจว่าลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์
2. เติมลมยางตามมาตรฐาน
- คำแนะนำจากคู่มือรถยนต์
ตรวจสอบแรงดันลมยางที่แนะนำในคู่มือรถยนต์หรือบนป้ายที่ติดอยู่บริเวณกรอบประตู
- ลมยางไนโตรเจน
หากต้องการลมยางที่คงตัวและลดความร้อน อาจเลือกเติมลมยางไนโตรเจน
3. สังเกตอาการผิดปกติของยาง
- ยางแฟบหรือล้อโยก
หากสังเกตเห็นว่ายางแฟบหรือการขับขี่ไม่ราบรื่น ควรรีบตรวจสอบแรงดันลมยางทันที
- สัญญาณไฟเตือนแรงดันลมยาง
รถยนต์บางรุ่นมีระบบ TPMS (Tire Pressure Monitoring System) ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อแรงดันลมยางผิดปกติ