มือใหม่ฝึกหัดลงทุนสไตล์รายวัน
ตอนนี้มีนัมายากลงทุนจำนวนมากที่ชอบในการ
ซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นแบบระยะสั้นถึงสั้นมากมาย (Trading)
ซึ่งอาศัยความปั่นป่วนขึ้นลงของราคาหุ้นในช่วงสั้นๆ
เป็นจังหวะสำหรับการสืบหาผลกำไร
แน่ๆว่า... การลงทุนแบบงี้ได้โอกาสได้กำไรได้ดีมากว่ารวมทั้ง สล็อต เร็วกว่าการลงทุนระยะยาว เพียงแต่ราคาหุ้นขยับ มากขึ้นไปไม่กี่ช่องก็สามารถได้กำไรได้มากมาย แต่ว่าดูอีกด้านหนึ่งถ้าเกิดกำเนิดข้อผิดพลาดขึ้นมา นักลงทุน ก็มีการเสี่ยงสูงรวมทั้งได้โอกาสขาดทุนมากมายด้วยเช่นเดียวกัน
ก่อนที่จะมีการลงทุนแบบงี้ก็เลยจำเป็นมากที่นักลงทุนควรต้องศึกษาเล่าเรียนกฎ ข้อตกลง กำหนดแผนการลงทุน แล้วก็วิธีการต่างๆอย่างรอบคอบถ้วนถี่ และก็นี่เป็น... แผนการการลงทุนแบบรายวันฉบับมือใหม่
มีสติสัมปชัญญะก่อนออกตัว
นักลงทุนจะต้องมีสติ ไม่ใช่อารมณ์ เนื่องจากในตอนที่จ้อง สล็อต หน้าหน้าจออยู่นั้น เชื่อเถอะว่า... “ความมักมาก” แล้วก็ “ความหวาดกลัว” จะเข้าครอบครอง ถ้าเกิดจิตใจอ่อนแอ ตกลงใจลงทุนตาม จิตวิทยาตลาด ย่อมทำให้คุณขาดทุน ด้วยเหตุดังกล่าว ต้องมีสติสัมปชัญญะควบคุมสมาธิให้อยู่ในเกมของพวกเรา แล้วก็ลงทุนไปตามแผนการที่วางไว้
เลือกหุ้น
นักลงทุนที่เน้นย้ำจำหน่ายระยะสั้นมักเลือกหุ้นที่จะเข้าไปลงทุนจาก 2 ปัจจัยสำคัญ เป็น
จำนวนการค้าขายสูง แล้วก็ ความประพฤติของราคาหุ้นที่มีความผันแปรสูง ซึ่งควรจะเป็นหุ้นที่มี ทั้งคู่ประการ เพื่อแน่ใจว่าจะสามารถขายหุ้นได้ในเวลาแล้วก็ราคาที่อยากได้ และมีการ ขยับเขยื้อนของราคาที่กว้างมากพอที่จะสร้างผลกำไรได้ในระหว่างวัน หรือนักลงทุนบางบุคคลบางทีอาจพอใจ หุ้นที่แพงต่ำ เนื่องจากปรารถนามองเห็นการปรับตัวของราคาขึ้นในอัตราสูงๆ
เลือกยุทธวิธีการลงทุน
มีวิธีการอยู่มากมายแบบสำหรับในการลงทุนระยะสั้นๆที่จะได้กำไร (หรือขาดทุน) ดังเช่น
Scalping
เป็นแผนการกระบวนการทำผลกำไรโดยการเปิดรวมทั้งปิด การค้าขายในช่วงสั้นๆทำเงินเพียงแต่ไม่กี่จุด (โดยมากจะอยู่ประมาณ5 - 20 จุด) เอาง่ายๆเป็น ทำเงินในหุ้นนั้นเมื่อราคาหุ้นขยับไป ถึงจุดที่ระบุ ซึ่งหัวใจของการเคล็ดลับนี้เป็น“เข้าให้ไว ผลกำไรรีบออก ย้ำผลกำไร จุดน้อยๆแต่ว่าเป็นประจำ”
ดังเช่น ซื้อหุ้น AAA ที่ราคา 10 บาท ตั้งขาย 10.10 บาท (ยังไม่รวมค่าคอม) เมื่อ หุ้นขึ้นไปถึงราคา 10.10 บาท ก็ขายทำเงิน
Fading
เป็นการทำเงินโดยการ ค้าขายตรงกันข้าม กับแนวโน้ม โดยจะ “ขายหุ้น” เมื่อราคาของ หุ้นนั้นกำลังจะสูงมากขึ้น แล้วก็ “ซื้อหุ้น” เมื่อราคา ของหุ้นกำลังจะลง ซึ่งตั้งอยู่บนข้อสมมติ ที่ว่า... ก่อนหน้าที่ผ่านมาหุ้นตัวนี้ถูกซื้อมากจนเกินความจำเป็น (Overbought) หรือนักลงทุนมีต้นทุนไม่มากมาย พร้อมที่จะขายทำเงินตั้งแต่เนิ่นๆรวมทั้งแรงซื้อ ตามกำลังจะหมดลง
Momentum
เป็นการ เก็งกำไรตามกระแสแล้วก็แนวทาง ของหุ้น ด้วยการพิเคราะห์ข้อความสำคัญข่าวสารที่ เข้ามา แนวโน้มของหุ้นในเวลานั้น รวมทั้ง จำนวนการ ค้าขายว่าหนาแน่นหรือเปล่า ประกอบกันไป เพื่อได้กำไรจากหุ้นที่กำลัง จะเปลี่ยนมาเป็นจุดสนใจจากหัวข้อต่างๆ
ระบุจุดตัดขาดทุน
สิ่งจำเป็นสุดๆที่จำเป็นสำหรับในการลงทุนระยะสั้นก็คือ การกำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) ซึ่งมีวิธีการเลือกกล้วยๆอยู่ 2 แบบเป็นเลือกจุดหยุดขาดทุนเป็นที่ยอมรับได้มากที่สุด โน่นเป็น ตรวจสอบกระเป๋าเงินของตัวเองว่ารับการเสี่ยงได้ขนาดไหน หรือเลือกจุดหยุดขาดทุน ด้านเทคนิคจากตัวหุ้นนั้นๆซึ่งจำเป็นต้องดูกราฟรวมทั้งข้อมูลประกอบ แต่ว่าถ้าหากจะให้ดี... การเลือก จุด หยุดขาดทุนต้องมองทั้งคู่ด้าน ประกอบกัน
ทั้งหมดทั้งปวงนี้หมายถึงวิธีพื้นฐานของการลงทุนแบบรายวัน ซึ่งผลวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งพบว่า... ในแต่ละปีมีนัมายากลงทุนแบบที่ลงทุน รายวันเพียงแต่ 20% เพียงแค่นั้นที่กำลังจะได้ผลกำไร ส่วนอีก 80% จะขาดทุนจากการลงทุน
เปิดพอร์ต
อาจจะส่งผลให้พวกเราขาดทุน รวมทั้งการคิดค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม ค่าสเปรด และก็ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าบริการอื่นๆเพื่อประกอบกิจการตกลงใจของพวกเราด้วย
เลือกบัญชีที่เหมาะสมกับพวกเรา
โดยปกติ ทุกๆโบรกเกอร์จะมีบัญชีหุ้นให้พวกเราเลือก 3 ชนิด เป็น
บัญชีเงินสด (Cash Account)
เป็นบัญชีหุ้นที่มีลักษณะการค้าขายหุ้นด้วยเงินสดตามราคาที่ซื้อ โดยจะกระทำการซื้อก่อนแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยจ่ายคราวหน้าในวันทำการที่ 2 หรือ T+2 ส่วนวิธีขายก็เหมือนกันพวกเราก็จะต้องขายหุ้นก่อนแล้วจึงจะได้รับเงินวันที่ T+2 นอกเหนือจากนี้เทรดเดอร์ยังควรจะมีหลักประกันในบัญชีก่อน บางทีก็อาจจะเป็นเงินสดหรือหุ้นก็ได้ ซึ่งค่าของหลักประกันควรจะมีตั้งแต่ 20% ขึ้นไปของค่าที่สั่งซื้อ แล้วก็สามารถซื้อหุ้นได้สูงสุดต่อวันไม่เกินที่โบรกเกอร์อนุมัติให้ได้ บัญชีเงินสดเหมาะสมกับเทรดเดอร์ทั่วๆไป แม้กระนั้นบางทีอาจจะต้องมีระเบียบสักนิดสักหน่อย เพราะเหตุว่าการจ่ายเงินในการจำหน่ายเป็นแบบ T+2
บัญชีวางหลักประกันเต็มปริมาณ (Cash Balance)
เป็นบัญชีหุ้นที่มีลักษณะการซื้อหุ้นตามจำนวนเงินที่พวกเราฝากไว้กับโบรกเกอร์ สมมุติว่า พวกเราอยากซื้อหุ้น A ในราคา 10,000 บาท พวกเราก็จำเป็นต้องเอาเงินไปฝากในบัญชี 10,000 บาทก่อน ก็เลยจะทำซื้อหุ้นตัวนั้นได้ ทำให้เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจเรื่องเงินที่จะไม่เพียงพอจ่ายสำหรับหุ้นที่สั่งซื้อไป และก็สำหรับเงินที่ฝากโบรกเกอร์ไว้แม้กระนั้นยังมิได้เอาไปทำค้าขายก็จะได้รับดอกจากโบรกเกอร์อีกด้วย ทำให้บัญชีชนิดนี้เป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าบัญชีแบบอื่นๆเนื่องจากว่าเหมาะกับเทรดเดอร์ทั่วๆไปที่ไม่ต้องการที่จะอยากเสี่ยงซื้อหุ้นเกินวงเงินที่พวกเรามีอยู่
บัญชีกู้ยืมเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ (Credit Balance)
มีอีกชื่อหนึ่งเป็น บัญชีมาร์จิ้น (Margin Account) เป็นบัญชีที่มีลักษณะการซื้อหุ้นแบบไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุนของตนเองเต็มปริมาณ สามารถกู้หนี้ยืมสินของโบรกเกอร์เพื่อเอามาซื้อหุ้นได้นิดหน่อย เป็นต้นว่า พวกเราจะซื้อหุ้นราคา 10,000 บาท พวกเราลงทุนจริง 5,000 บาท และก็กู้เงินโบรกเกอร์มาอีก 5,000 บาท แต่ว่าบัญชีชนิดนี้จะมีต้นทุนมากขึ้นจากดอกที่พวกเรายืมมาจากโบรกเกอร์ แม้กระนั้นก็มีคุณลักษณะเด่นคือ พวกเราสามารถซื้อหุ้นได้มากขึ้นโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายมากมาย บัญชีจำพวกนี้เหมาะสมกับเทรดเดอร์ที่มีความชำนิชำนาญ มีประสบการณ์ มีความรู้และมีความเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการเทรดหุ้นอย่างดีเยี่ยม
โหลดโปรม***รมสำหรับใช้เพื่อสำหรับการเทรดหุ้นและก็ฝึกหัดใช้วัสดุ
เมื่อพวกเราเลือกบัญชีที่เหมาะสมกับพวกเราได้แล้ว ถัดมาพวกเราก็โหลดโปรแกรมที่ใช้สำหรับเพื่อการเทรดหุ้นเข้ามาได้เลย ดังเช่น Streaming, MT4 รวมทั้ง MT5 ที่สามารถใช้ได้ทั้งยังใน ios, Android และก็ PC ได้ รวมทั้งฝึกหัดใช้อุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในโปรแกรมพวกนั้นด้วย เพื่อทำให้การเทรดเป็นได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ฝึกหัดการอ่านแผนภูมิ และก็เรียนรู้เนื้อหาสาระเกี่ยวกับการเทรดหุ้น
ทดลองเทรดหุ้นในบัญชีทดสอบก่อนจะลงเทรดในบัญชีจริง
ก่อนที่จะพวกเราจะเริ่มลงทุนด้วยเงินจริงในตลาดจริงเป็นครั้งแรก เสนอแนะว่า ให้ทดสอบเล่นในบัญชีทดสอบก่อน เพื่อฝึกหัดการเทรดเบื้อต้น เนื่องจากว่าถ้าหากขาดทุนหรือสูญเสีย ก็จะได้ไม่เจ็บตัว ถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับมือใหม่ไปในตัว
ลงเทรดในบัญชีจริงด้วยเงินลงทุนเริ่มน้อยๆก่อน
เมื่อพวกเราฝึกฝนในบัญชีทดสอบแล้ว ก็มาเริ่มเทรดในบัญชีจริงได้เลย แต่ว่ามีคำแนะนำว่า เริ่มควรจะลงทุนด้วยเงินลงทุนน้อยๆก่อน เพราะว่าถ้าหากกำเนิดความบกพร่องก็จะได้ไม่ต้องสูญเสียเงินไปๆมาๆก เนื่องด้วยการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จริงย่อมมีการเสี่ยงเกิดขึ้นอยู่แล้ว
เลือกหุ้นที่เหมาะสมกับพวกเรารวมทั้งอย่าพึ่งร่วมทุนเรียงตัวสำหรับมือใหม่
เลือกหุ้นที่เหมาะสมกับพวกเราแล้วลงทุนในหุ้นนั้นๆสำหรับมือใหม่ เสนอแนะเป็นหุ้น SET 50 แต่ว่าจะไม่ชี้แนะหุ้นเรียงตัว เพราะเหตุว่ามีการเสี่ยงสูง อาจก่อให้มีการขาดทุนรวมทั้งสูญเสียอย่างมากได้ เนื่องด้วยมือใหม่ยังไม่มีการวิเคราะห์หรือคาดคะเนตลาดค้าหุ้นที่ดีเยี่ยมนัก
ฝึกฝนพินิจพิจารณาวิธีการการเทรดหุ้น
ในระยะแรกที่พวกเราเริ่มเทรดบางครั้งอาจจะจำเป็นต้องเรียนกล่าวโทษทราบเกี่ยวกับการวิเคราะห์แล้วก็คาดหมายตลาดค้าหุ้น รวมทั้งบางครั้งก็อาจจะจำต้องหมั่นพินิจความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลทางเศรษฐกิจ การบ้านการเมือง รวมทั้งสังคม กับ ราคาในตลาดหลักทรัพย์ด้วย เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์สำหรับเพื่อการพินิจพิจารณาและก็คาดกาณ์ราคาหุ้นสำหรับในการค้าขายให้ถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น
เรียนเกี่ยวกับหุ้นเรียงตัว
เมื่อพวกเราเริ่มมีประสบการณ์มากยิ่งขึ้น เริ่มพินิจพิจารณารวมทั้งคาดคะเนราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ พวกเราก็เริ่มมาศึกษาเกี่ยวกับหุ้นเรียงตัวได้ ซึ่งหุ้นเรียงตัวจะก่อให้พวกเราได้โอกาสได้กำไรที่มากขึ้นรวมทั้งในบางตัวก็จะมีเงินเงินปันผลให้พวกเราด้วย
จัดพอร์ตการลงทุนหุ้น
เมื่อพวกเราเริ่มมีความชำนาญมากยิ่งขึ้นแล้ว พวกเราก็มาทำพอร์ตของพวกเราดูดีขึ้น บางทีอาจจะเลือกหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างออกไป เพื่อกระจัดกระจายการเสี่ยง เมื่อกำเนิดปัญหาหรือมีการขาดทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมหนึ่ง พวกเราจะได้เหลือหุ้นตัวอื่นที่ไม่ขาดทุนอยู่ในพอร์ตของพวกเรา
|